Steve Peha (2010) ให้มุมมองถึงลักษณะ7ประการที่ครูพึงปฏิบัติอยู่เสมอแล้วจะเป็นครูที่มีคุณภาพ/มีความสามารถสูง ซึ่งมีมุมมองแตกต่างจากสิ่งที่เราคุ้นเคย และมีความสอดคล้องกับคุณลักษณะของครูภาษาไทย ที่ผู้เขียนได้พบในการประชุม ดังนี้
1.กระทำกับสิ่งที่มีอยู่ไม่ใช่กระทำกับสิ่งที่ขาดหายไป โรงเรียนหรือครูมักจะวัดผลนักเรียนเพื่อที่จะพิจารณาจุดด้อย แล้วแยกนักเรียนออกไปอยู่กับกลุ่มด้อย จากนั้นก็พยายาม "เติมเต็มช่องว่าง"ของความสามารถของนักเรียน ด้วยการจัดการเรียนการสอนของครู ราวกับว่านักเรียนเป็นกระดานชนวนที่ว่างเปล่าสำหรับเขียน หรือเป็นภาชนะที่ว่างเปล่าสำหรับเติมเต็มสิ่งใดๆลงไป แต่จากการวิจัยเกี่ยวกับสมองและสามัญสำนึกบอกให้เราทราบว่า นักเรียนเรียนได้ดีกว่าถ้าครูสอนจากพื้นฐานที่เขารู้อยู่แล้ว(สิ่งที่เขามีอยู่) ไม่ใช่สอนจากสิ่งที่เขาไม่รู้(สิ่งที่เขาไม่มี)
2. จัดการวัดและประเมินผลเพื่อความเข้าใจตัวนักเรียน ไม่ใช่เพื่อการตัดสินดีหรือเลว ครูควรมีมุ่งหมายที่จะรู้จักนักเรียนอย่างชัดเจนและสมบูรณ์ในฐานะมนุษย์โดยภาพรวมทั้งหมด มากกว่าที่จะคำนึงถึงเกรดหรือคะแนน
3. แสวงหาตัวแบบไม่ใช่แก้ไข การแก้ไขนักเรียนโดยการให้คะแนนผลงานและการทดสอบ ไม่ได้ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ แต่กลับสูญเสียเวลาและไม่ใช่หนทางที่ได้ประโยชน์ การแก้ไขเป็นการบอกถึงความผิด ไม่ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ในจุดที่ต้องการ แต่นักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดจากตัวแบบและแก้ไขด้วยตนเอง
4. จัดหาเครื่องมือให้ไม่ใช่ให้กฎเกณฑ์ โดยมากการสอนเป็นการให้กฎเกณฑ์ ให้นักเรียนทำสิ่งนั้นไม่ทำสิ่งนี้ เป็นการเพิ่มกฎเกณฑ์ แต่ลดศักยภาพของนักเรียนในการบริหารจัดการตนเอง ซึ่งเป็นความสามารถพื้นฐานที่เราหวังจะให้เด็กมีก่อนที่เขาจะจบการศึกษาไปจากโรงเรียน
5. คำนึงถึงกระบวนการไม่ใช่ผลงาน นักเรียนไม่ว่าวัยใด ความสามารถระดับใด จะมีความก้าวหน้าได้ดีถ้าเราให้คำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ มากกว่าคำแนะนำเกี่ยวกับผลงาน การให้คุณค่าในเรื่อง "นักเรียนเรียนรู้อย่างไร" เพิ่มเติมจากเรื่อง "นักเรียนเรียนรู้อะไร" เป็นการคำนึงถึงนักเรียนแต่ละบุคคล และให้พื้นฐานแก่เขาสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต
6. ควบคุมกิจกรรมไม่ใช่ควบคุมนักเรียน นักเรียนต้องการโครงสร้างการเรียนการสอน โดยเฉพาะตอนเริ่มต้น แต่โครงสร้างนั้นต้องไม่กำหนดว่านักเรียนต้องทำอะไรและทำอย่างไร เพราะนักเรียนต้องการทางเลือกในการเรียนรู้และการแก้ปัญหา ถ้านักเรียนไม่ได้เลือกจะทำให้เขาขาดความรู้สึกความเป็นเจ้าของ และถ้่าไม่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของ จะทำให้นักเรียนมีแรงจูงใจน้อยที่จะทำให้ดีที่สุด
7. ยกย่องชมเชยความพยายามไม่ใช่ผลงาน นักเรียนต้องการการยกย่องชมเชยจากครู ซึ่งจะทำให่เขาเต็มใจทำในสิ่งนั้น ครูจึงควรยกย่องชมเชยความพยายามแทนผลงาน เพราะนักเรียนทุกคนไม่ได้ประสบความสำเร็จในงานที่เขาพยายามทำ โดยเฉพาะงานใหม่ๆ แต่ถ้าเมื่อใดที่นักเรียนมีความพยายามทำงานนั้นๆ เขาย่อมมีโอกาสเรียนรู้และปรับปรุงตนเอง
ขอขอบคุณ อ.ดุจดาว เจ้าของโครงการ ครูภาษาไทยทั้ง 38 คนและศึกษานิเทศก์กัลยาณมิตรทั้ง 3 คน(ศน.ประไพพิศ ศน.สิรี และ ศน.ชโลบล) ที่ร่วมถอดประสบการณ์การจัดการความรู้ของครูภาษาไทย ที่ทำให้เกิดบทความนี้ค่ะ |