การอบรมครูภาษาไทย

ขอให้โรงเรียนในโครงการพัฒนาภาษาไทย ลงทะเบียนเข้ารับการอบรม โดยคลิก ที่นี่ และสามารถตรวจสอบรายชื่อโดยคลิก ที่นี่ หลังการอบรมให้ผู้เข้าอบรมกรอกแบบประเมินผลออนไลน์ดดยคลิก ที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การสอนคัดลายมือ

          การคัดลายมือเป็นทักษะการรับรู้ที่ซับซ้อน ขึ้นกับความเจริญเติบโตทางร่างกาย การรับรู้และเข้าใจผ่านประสาทสัมผัสและการสอนของครู  ปัญหาการเขียน/การคัดลายมือมักถูกมองข้าม และเข้าใจผิดว่าเด็กไม่อยากคัดลายมือเพราะขี้เกียจ  แท้จริงแล้วในทางตรงกันข้ามเด็กลังเลที่จะผลิตงานเขียนและเป็นสิ่งหนึ่งที่เด็กไม่ชอบทำที่โรงเรียน  เพราะถูกสั่งให้เขียนอย่างเรียบร้อย ในที่นี้จะขอเสนอความคิดและข้อสังเกตแก่ครูภาษาไทยเพื่อทบทวนความคิดและหลักการสำคัญอันจะนำไปสู่การสอนคัดลายมือ ดังนี้

         การฝึกทักษะการคัดลายมือรวมถึงการฝึกทักษะการมอง  ในขณะที่เด็กคัดลายมือเด็กต้องใช้กล้ามเนื้อมือและการประสานสัมพันธ์การเคลื่อนไหวทางร่างการและความคิดในขณะคัดลายมือ
       
         การฝึกทักษะการมอง / สังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว เช่น สิ่งของเครื่องใช้ในห้องเรียน  ธรรมชาติ  ภาพการ์ตูน หรือรูปร่าง-รูปทรงของผัก ผลไม้ จะช่วยให้เด็กรับรู้ทางสายตาในการแยกแยะระหว่างรูปร่าง รูปทรงต่างๆ แล้วตีความสิ่งที่มองเห็น เมื่อเด็กคุ้นเคยกับสิ่งต่างๆที่เป็นของจริงและรู้สิ่งต่างๆที่เป็นสัญลักษณ์แล้ว  เด็กจะตัดสินใจเลือกปฏิบัติการเขียนตามรูปร่าง/รูปทรงนั้นๆ และเข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องคัดลายมือตัวอักษร

          ความสามารถในการจัดเก็บหน่วยความจำและการดึงข้อมูลจากการจำตัวอักษร และรูปแบบคำ มีความสัมพันธ์ต่อการคัดลายมือ เพราะการให้เด็กคัดลายมือคำหรือประโยคที่ยากและไม่มีความสัมพันธ์ต่อการใช้ของเด็ก จะทำให้การคัดลายมือไม่มีความหมายและไม่เสริมต่อการเรียนรู้คำ/การเรียนรู้ทางภาษา

          การสอนให้เด็กจับดินสอหรือปากกาอย่างสมดุล  จะช่วยให้เด็กใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลางในการเคลื่อนไหวขณะเขียน ช่วยให้เขียนได้อย่างคล่องแคล่ว

         เด็กที่เกลียดการคัดลายมือ/การเขียน   บางส่วนเป็นเด็กที่มีปัญหาการรับรู้และมีปัญหาในการอ่าน      เด็กกลุ่มนี้จะมีความยากลำบากในการจำตัวอักษรและจดจำคำ  เด็กบางคนไม่สามารถแยกแยะด้วยสายตาว่าตัวอักษรที่เขาคัดนั้นคือตัวอะไร  ครูสามารถช่วยเด็กกลุ่มนี้โดย

         1. การใช้แถบอักษร ( ก-ฮ ) วางไว้ที่มุมโต๊ะ  ในขณะที่เด็กคัดลายมือหรือเขียน  จะได้มองเห็นลักษณะอักษรและจดจำตัวอักษรนั้นได้

         2. การเพิ่มหรือลดเวลาการคัดลายมือ  รวมทั้งจำนวนชุดคำที่เขียน โดยการมอบหมายให้เด็กคัดลายมือตามความสามารถและลำดับคำที่ง่ายไปยาก

       
3. การฝึกพูดและอ่านออกเสียงควบคู่กับการคัดลายมือ

4. การฝึกเขียนบนวัสดุต่างๆแทนกระดาษ เช่น กระดานดำ หรือการสำเนาตัวอักษรเฉพาะบางตัวที่เป็นปัญหาให้เด็กฝึกเป็นรายบุคคล โดยการเล่นเกมจับคู่อักษรหรือเกมทายพยัญชนะไทย

          5. การกวาดสายตาจากซ้ายไปขวา และจากบนลงล่าง  มีสำคัญในการฝึกคัดลายมือหรือการเขียนตของเด็ก เพราะเป็นลักษณะเฉพาะของการอ่านและเขียนของภาษาไทย

          6. สำหรับเด็กระดับปฐมวัยหรือชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ครูหรือผู้ปกครองควรสนับสนุนให้เด็กใช้สีเทียนหรือดินสอสีในการเขียนรูปร่างต่างๆอย่างอิสระ  ก่อนจะเริ่มเขียนอักษร  รวมทั้งการเล่นกับตัวอักษรเพื่อให้คุ้นเคยและสามารถแยกแยะความเหมือนความต่างของตัวอักษรได้

           7. ควรใช้เส้นบรรทัด 5 เส้น หรือเส้นบรรทัดที่มีเส้นประในการฝึกคัดลายมือ โดยมีตัวอย่างการเขียนอักษรตามลำดับการเขียน  ให้เด็กได้ฝึกลากเส้นตามอย่างที่ถูกต้อง

           8. ครูหรือผู้ปกครองควรติดตามการฝึกคัดลายมือของเด็กว่ามีพัฒนาการอย่างไร เพื่อช่วยเหลือเด็กเป็นรายบุคคล  รวมทั้งการที่เด็กถนัดมือขวา-ซ้ายต่างกัน ไม่ควรบังคับเด็ก

            9. การสื่อสาร พูดคุยกับเด็กใหเด็กรู้ความก้าวหน้าของตนเองจะสร้างแรงจูงใจให้เด็กรู้สึกประสบความสำเร็จ  และเห็นความสำคัญของการคัดลายมือ  หากเด็กสนใจอยากฝึกเพิ่มเติม ก็ควรหาชุดคำ เรื่องที่คัดสรรให้เด็กฝึกเพิ่มเติมที่โรงเรียนหรือบ้าน

              การคัดลายมือมีรูปแบบการเขียนหลายแบบ  เช่น

ตัวอักษรแบบ
กระทรวงศึกษาธิการ



ตัวอักษรแบบอาลักษณ์





พบกันในครั้งต่อไป
ในเรื่องการใช้แผนภาพในการพัฒนาการเขียนนะครับ






1 ความคิดเห็น: